เมื่อความรักของคุณทั้งสองบ่มกันมาจนสุกงอม จนถึงขั้นตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน การแต่งงานเป็นเรื่องที่สำคัญของทั้งสองฝ่ายเพราะเป็นประเพณี เพื่อประกาศให้เกียรติผู้ใหญ่ในครอบครัวของคนทั้งคู่ ดังนั้นวิธีและการปฏิบัติจึงควรกระทำให้ถูกต้องตามหลักขั้นตอนประเพณี
การแต่งงานตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย จัดว่ามีรายละเอียดค่อนข้างมาก ขั้นตอนดั้งเดิมนั้นก็มากพอสมควร แต่ในยุคสมัยปัจจุบันได้มีการประยุกต์และรวบรัดให้เข้ากับสมัย แต่ถึงกระนั้นก็ตามก็ยังคงไว้ความถูกต้องของแบบแผนเดิม
เรียบเรียงโดย: สยามวีว่าดอทคอม (siamviva.com)
เบื้องต้นผู้ใหญ่ฝ่ายชายหรือเถ้าแก่ที่นัดหาไว้จะเดินทางไปพบผู้ใหญ่ฝ่าย หญิง เพื่อพูดคุยและหารือเกี่ยวกับความรักของทั้งคู่เป็นการส่วนตัวก่อน เพื่อดูท่าทีผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงว่าจะยอมยกลูกสาวให้หรือไม่ คำพูดที่ใช้ทาบทามเน้นพูดถึงความดี ความมุ่งมั่น ความมั่นคง และความรักที่ฝ่ายชายมีให้ฝ่ายหญิง และที่สำคัญเป็นคำพูดในทำนองว่าสามารดูแลและเลี้ยงดูลูกสาวของเขาให้มีความ สุขได้ โดยมีคำพูดและประเด็นคร่าวๆ ว่า
“ ปีนี้ … (ฝ่ายชาย) ก็อายุ … ปีแล้ว หน้าที่การงานดี และมั่นคง ที่ผ่านมาเห็นว่า รักและชอบพอกับ …(ฝ่ายหญิง) อยู่นาน เห็นว่าทั้งคู่ดูใจศึกษาซึ่งกันและกัน และรักกันมานานพอสมควร ในฐานะผู้ใหญ่เห็นว่า สมควรแก่เวลา จึงอยากมาทาบทามสู่ขอให้ครอบครัวของทั้งสองเป็นทองแผ่นเดียวกัน ไม่ทราบว่าทางฝ่ายนี้จะเห็นดีเห็นงามหรือเปล่า ” |
ในสมัยก่อนแม้ว่าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงจะขอวันเดือนปีเกิดของฝ่ายชาย เพื่อนำไปให้โหรหรือพระตรวจดูดวงชะตาเสียก่อน ซึ่งนับเป็นอุบายที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะสมัยก่อนการทาบทามสู่ขอไม่มีการบอกล่วงหน้าเหมือนในสมัยนี้ เมื่อมีผู้ใหญ่มาทาบทามขอลูกสาว ก็มักจะรอถามลูกตัวเองก่อนว่าชอบหรือพอใจในตัวฝ่ายชายหรือไม่ ถ้าไม่ก็สามารถปฎิเสธได้ โดยอ้างว่าชะตาของทั้งคู่ไม่ต้องกัน ถ้าแต่งงานกันก็จะเกินอันตรายต่างๆ นานา
แต่ในปัจจุบันถ้าทั้งสองชอบพอกันและผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงรับรู้ ส่วนใหญ่จะเข้าใจ ไม่ขัดข้องและยินดีให้การแต่งงาน จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็จะพูดจาตกลงเกี่ยวกับสินสอดทองหมั้นและกำหนดวันสู่ขอต่อไป
ขั้นตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายชายไม่ต้องไปเอง แต่ให้ผู้ใหญ่ที่ฝ่ายชายเคารพนับถือเดินทางไปหาผู้หญิงที่บ้านอีกครั้ง เพื่อยืนยันข้อตกลง รวมถึงกำหนดสินสอดทองหมั้น ตลอดจนแจ้งเรื่องของการสร้างเรือนหอ การกำหนดขันหมาก และกำหนดวันแต่งงานให้พร้อม
สิ่งแรกที่เถ้าแก่ต้องเจรจาคือเรื่อง "สินสอด" หรือเรียกอีกอย่างว่าค่าน้ำนม เพื่อให้เกียรติแก่พ่อแม่ฝ่ายหญิง ในอดีตมักจะเรียกสินสอดประมาณสามสิบ สี่สิบบาท พอเป็นพิธี เพราะถ้าเกินกว่านั้น มักถูกนินทาว่าขายลูกสาว และมอบคืนให้ทั้งคู่หลังแต่งงาน เพื่อเป็นเงินทุนในการเริ่มต้นครอบครัวใหม่ต่อไป |
ส่วน "ทองหมั้น" คือสิ่งของที่ฝ่ายชายนำไปมอบให้ฝ่ายหญิงและมักเป็นเครื่องทอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับ อย่างสร้อยคอ ต่างหู กำไล และ ที่สำคัญก็คือแหวนหมั้น ปัจจุบันนิยมมอบเป็นแหวนเพชรมากกว่าทอง ซึ่งของหมั้นนี้จะกลายเป็นสมบัติฝ่ายหญิงหลังแต่งงาน เมื่อพูดจาตกลงกันเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย ก็จะกำหนดฤกษ์ ยามยามดี สำหรับวันหมั้นและประกอบพิธีแต่งงานเป็นขั้นตอนต่อไป
หลังจากทำการทาบทามและสู่ขอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฝ่ายชายต้องทำการจัดหาเรือนหอ
(ซึ่งปัจจุบันนิยมหาเรือนหอกันก่อนการทาบทามสู่ขอ เพื่อให้ทันเข้าอยู่ได้จริงหลังแต่งงาน) และตามธรรมเนียมต้องให้เสร็จก่อนวันแต่งงาน หรือ อาจจะอยู่ในระยะของการผ่อนส่งก็ได้ แต่ต้องพร้อมเข้าอยู่ได้เลยหลังแต่ง แต่ถ้ายังไม่พร้อมจริงๆอาจจะขออาศัยอยู่กับพ่อแม่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนกว่า เรือนหอจะเสร็จก็ได้
ฝ่ายชายจะทำหน้าที่เตรียมขันหมากหมั้น ซึ่งประกอบด้วย
1. พานขันหมาก
ประกอบด้วยหมาก 8 ผล เลือกให้อยู่ในพวงเดียวกัน หรือเลือกแบบ 2 ผล ให้อยู่ในก้านเดียวกัน
4 ก้านก็ได้ ฝานก้นหมากทาชาดให้เรียบร้อย เรียงใบพลูที่ทาชาดและตัดก้านเสมอกันแล้วเรียง เรียงละ
8 ใบ และจัดให้เหมือนกัน 2 พาน
2. พานขันหมั้น
หาขันที่ใหญ่กว่าขันหมากเล็กน้อย แบ่งเป็นขันสินสอดหนึ่งขัน วางก้นขันด้วยพืชพรรณและใบไม้ ดอกไม้มงคล อย่างเช่น ดอกรัก ใบเงิน ใบทอง ใบหยก ใบนาก ใบแก้ว ข้าวเปลือก ถั่ว งา จากนั้นจึงนำสินสอดวางด้านบน และมีเคล็ดปฏิบัติสำหรับพานสินสอดก็ คือ ควรเพิ่มเงินให้มากกว่าสินสอด เพราะเป็นความเชื่อว่าเงินนั้นจะงอกเงยเป็นดอกผลให้แต่คู่บ่าวสาว สำหรับอีกขันจัดก้นขันเหมือนกันวางของหมั้นไว้ด้านบน
3. พานธูปเทียนแพ
ใช้ธูปและเทียนแพเท่านั้น โดยวางก้นพาน จากนั้นจึงใช้กระธงกรวยใบตองบรรจุดอกไม้วางไว้บนธูปและเทียนแพอีกที ขันวางผ้าไหว้ สำหรับไหว้พ่อแม่หรือผู้มีบุญคุณที่เลี้ยงดูฝ่ายหญิง ถ้าผู้รับผ้าไหว้เป็นผู้หญิง ของไหว้ในพานควรเป็นผ้าไหมส่วนของผู้ชายใช้ผ้าขนหนู หรือจะใช้เป็นผ้าขนหนูแบบเดียวกันทั้งผู้หญิงผู้ชายก็ได้
4. เครื่องขันหมาก
ประกอบไปด้วยขนมมงคล 9 อย่าง คือ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ทองเอก จ่ามงกฎ เสน่ห์จันทร์ ขนมชั้น ขนมถ้วยฟู และอาหารคาวอย่างหมูนอนตอง (หมูสามชั้นต้มสุกวางบนใบตอง) ไก่ต้ม ปลาช่อนนึ่งทั้งตัว รวมไปถึงบริวารขันหมากอื่นๆ เช่น ต้นกล้วย (มีหัวปลีติดมาด้วยจะดีมาก) ต้นอ้อย มะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้าทั้งเครือพิธีการ
จัดแถวขันหมากโดยให้พานธูปเทียนแพนำหน้าเพื่อเป็นการคาราวะผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง ถัดมาเป็นพานขันหมากต่อด้วยพานสินสอด ทองหมั้น ตัวเถ้าแก่หรือผู้ใหญ่ฝ่ายชาย ตามด้วยพานผ้าไหว้ และปิดท้ายด้วยเครื่องขันหมาก
ฝ่ายเจ้าสาวจัดคนถือพานหมากไปคอยรับที่ประตูบ้าน (มักนิยมใช้เด็กหญิง) เมื่อขบวนขันหมากมาถึง ก่อนเข้าบ้าน เด็กหญิงที่ถือพานหมากมาต้อนรับจะพูดว่า “ไปยังไงมายังไงคะมากันมากมายจริงๆ” ผู้นำขบวนขันหมากจะพูดตอบว่า “วันนี้มาดีนะ ไม่ได้มาร้าย นำแก้วแหวนเงินทองและนำคนดีมีสิริมงคลมาให้เพื่อเป็นทองแผ่นเดียวกัน ขอผ่านหน่อยนะจ๊ะ” (พร้อมกับหยิบหมากบนพานไปเคี้ยวและวางมอบเงินหรือของขวัญไว้บนพานหมากของเด็กด้วยเพื่อเป็นของกำนัล)
ฝ่ายหญิงเตรียม
- ผ้าขนาดใหญ่พอประมาณ โดยส่วนใหญ่จะเป็นผ้าแดงหรือผ้าเงินผ้าทอง ตัดเย็บขอบอย่างสวยงาม
ปักชื่อของหนุ่มสาวบนผ้า ใช้เป็นผ้าห่อสินสอด
- กระบวยบรรจุถั่วงา ดอกดาวเรือง และดอกบานไม่รู้โรยไว้ให้เรียบร้อย สำหรับโรยอวยพรให้หนุ่มสาว
พิธีการ
เถ้าแก่ฝ่ายชายเปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนออกและขอให้คุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายหญิงเปิดตรวจนับว่าถูกต้องหรือไม่
คุณพ่อคุณแม่ฝ่ายหญิงทำท่านับสินสอดทองหมั้นแบบเป็นพิธี จากนั้นหยิบของทั้งหมดมาวางบนผ้าห่อสินสอดที่เตรียมไว้ จากนั้นคุณพ่อคุณแม่รวมถึงผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะช่วยกันโรยข้าวตอกดอกไม้ ถั่ว งา ลงบนสินสอด เพื่อเป็นการให้พรแก่ทั้งคู่ให้จงเจริญ งอกงาม เหมือนถั่วเหมือนงาและเจริญรุ่งเรืองเหมือนดอกดาวเรือง และมีความรักยืนยาวเหมือนดอกบานไม่รู้โรย จากนั้นฝ่ายชายสวมแหวนให้กับฝ่ายหญิง หลังจากสวมแหวนเรียบร้อย ฝ่ายหญิงประนมมือไหว้ฝ่ายชายหนึ่งครั้ง ฝ่ายชายรับไหว้ตอบ
เมื่อสวมแหวนเสร็จคุณแม่ฝ่ายหญิงจะห่อสินสอดด้วยผ้าและแบกขึ้นไว้บนบ่าพอ เป็นพิธีและทำท่าหนักๆเข้าไว้ และให้พูดเอาเคล็ดว่า “ห่อนี้หนักเสียจริงๆ คงมีเงินทองงอกเงยออกมามากมายเต็มบ้านเต็มเรือน”
ฝ่ายหญิงจัดเตรียมหมอนสำหรับรองกราบสองใบ ขันหรือพานใส่ของสองพาน และสายสิญจน์ผูกข้อมือ
พิธีการ
บ่าว - สาว ยกพานธูปเทียนแพและผ้าไหว้คลานไปหมอบกราบคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่ายบนหมอน โดยกราบแบมือสามครั้งเพื่อฝากเนื้อฝากตัวและแสดงความเคารพ
คุณพ่อคุณแม่เปิดกรวยดอกไม้ จากนั้นอวยพรบ่าวสาว พร้อมมอบซองหรือของรางวัลที่จัดมาให้อาจเป็นเงินสด เช็ค ทอง หรือว่าโฉนดที่ดินก็แล้วแต่ ซึ่งของรางวัลเหล่านี้วัตถุประสงค์คือเป็นทุนให้บ่าวสาวไว้ใช้ในการเริ่มต้น ชีวิตคู่
จากนั้นผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือซ้ายของเจ้าสาวและผุกข้อมือขวาให้เจ้าบ่าว เสร็จแล้วบ่าวสาว ช่วยกันยกพานของไหว้มอบให้กับคุณพ่อคุณแม่ พร้อมกราบพร้อมกันอีกครั้ง ถ้ามีผู้ทำพิธีหลายคนก็ให้ทำแบบเดียวกันเวียนกันไปจนครบ เพียงแต่ตอนกราบให้กราบเพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องแบมือ