5 ที่พักริมน้ำอยุธยา

ออเจ้าชวนคุณพี่ พักผ่อนกายใจ ณ 5 ที่พักริมน้ำอยุธยา สุขอุราบรรยากาศไทย

ณ ตอนนี้อะไรก็ไม่ฟินเท่าละครบุพเพสันนิวาส ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ ทำเอาคนเรียกคุณหมื่น ออเจ้ากันทั่วบ้านทั่วเมือง หลังจากไปเที่ยวตามรอยละคร บุพเพสันนิวาส แบบฟินๆ ที่เราเคยแนะนำเพื่อนๆไปแล้ว ShopBack เพิ่มระดับความอินสุดฟินยกกำลังสอง กับ 5 ที่พักริมน้ำอยุธยา โรงแรมในอยุธยา บรรยากาศไทยสวยๆ รับรองว่าสาวกคุณหมื่นและออเจ้าจะได้เอนกาย พักใจ ดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์ของกรุงเก่าแน่นอน

• iuDia

iuDia เป็นรีสอร์ท อยุธยา ริมน้ำ สไตล์บูทีคโฮเทล ทุกตารางนิ้วของที่นี่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง บรรยากาศโดยรอบให้กลิ่นอายสยามดั้งเดิม ทำให้ออเจ้าได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศย้อนเวลากลับไปสู่ความสงบร่มรื่นของกรุงเก่า ที่เที่ยวภาคกลางที่ใกล้กับกรุงเทพฯ เมืองหลวงปัจจุบันแบบชนิดที่เดินทางง่ายไม่เหนื่อยด้วย

ไฮไลท์ ที่พักริมน้ำอยุธยา ที่นี่ที่บอกเลยว่าทุกคนจะต้องร้องโอ้โห อยู่ที่วิวทิวทัศน์จากตัวที่พักที่สามารถมองเห็นวัดพุทไธศวรรย์ซึ่งอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาสายยาวกั้นพอดิบพอดี ช่วงกลางวันนั้นว่าสวยแล้ว ช่วงกลางคืนยิ่งสวยกว่า เพราะแสงจากดวงจันทร์ที่สะท้อนตกกระทบกับแม่น้ำโดยมีฉากหลังเป็นวัดสำคัญเช่นนี้ สวยงามเกินคำบรรยายจริงๆ 

วัดพุทไธศวรรย์นี้เป็น 1 ในโลเคชั่นสำคัญจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาสด้วย ความสำคัญคือเป็นวัดที่สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) โปรดเกล้าให้สร้างขึ้น และเป็นวัดที่ไม่ได้ถูกข้าศึกทำลาย ทำให้ยังคงหลงเหลือโบราณสถานและโบราณวัตถุให้ออเจ้ารุ่นหลังได้ศึกษา จากที่พักอยุธยาติดแม่น้ำแห่งนี้ ออเจ้าทั้งหลายสามารถพาคู่หมายไปปั่นจักรยานหรือเดินเท้าไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงได้อีก ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา วัดมหาธาตุ หรืออุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ที่นี่จึงถือเป็นหนึ่งในที่พักแถวอยุธยาที่ได้รับคะแนนความพึงพอใจจากผู้เข้าพักเป็นอันดับต้นๆเลยหล่ะ

การเดินทาง : สามารถใช้เส้นทางเข้าสู่ถนนอู่ทอง ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมืองเก่า

ราคา : เริ่มต้นที่ 1,550 บาท (ห้อง Petite Single Room)

แผนที่ :

• Sala Ayutthaya

สุดยอดรีสอร์ทริมน้ำ อยุธยา Sala Ayutthaya ที่อื้ออึงในหมู่นักท่องเที่ยวไทยและเทศที่สุดแห่งหนึ่งในย่านนี้ ที่นี่พาออเจ้าทั้งหลายเดินทางข้ามเวลากลับไปรำลึกถึงความสวยงามของกรุงศรีอยุธยา และยังมีความโมเดิร์น ทันสมัยในเวลาเดียวกัน

ศาลา อยุธยาตกแต่งได้อย่างละเมียดละไม แค่เดินเข้ามาถึงล้อบบี้ก็ต้องร้องว้าวแล้วกับกำแพงอิฐ เพดานไม้ แซมด้วยต้นไม้สีเขียวเป็นระยะ มีแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะชิคๆด้วย ยิ่งเดินเข้าไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนเกศสุรางค์ที่กำลังทึ่งกับมนต์เสน่ห์แบบกรุงเก่ามากเท่านั้น การตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบดั้งเดิมและความโมเดิร์นในสมัยใหม่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นที่พักริมน้ำอยุธยาที่ติดอันดับในใจของนักท่องเที่ยวได้แบบไม่ต้องสงสัย

ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือมุมพิเศษที่ออกแบบเป็นกำแพงอิฐขนาดใหญ่สูงถึง 8 เมตร ซ้อนสลับกัน เมื่อต้องกับแสงแดดแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในฉากของละครบุพเพสันนิวาสยังไง ยังงั้นเลย นอกจากนี้หากเดินลึกเข้าไปก็จะพบกับวิวของวัดพุทไธศวรรย์ที่ฉายความสวยงามแบบพาโนรามา จะนั่งชิวริมน้ำ แล้วสั่งอาหารเช้าชุดเจ้าพระยา (ข้าวต้มไก่, หมู หรือกุ้ง เสิร์ฟพร้อมผัดผักบุ้ง และยำกุนเชียง) ก็เพลินพุงเพลินตาได้จริงๆ

ตกเย็น ShopBack แนะนำให้นั่งดินเนอร์ท่ามกลางแสงเทียนก็ดี สำหรับห้องพัก ห้อง Deluxe River View ที่สามารถมองเห็นวิวริมน้ำได้จากห้องพักผ่านกระจกบานใหญ่ มาสวีททริปหวานกับคนรัก แนะนำให้พักที่นี่ หรือจะนั่งดูละครบุพเพสันนิวาส พลางชมวิวกรุงเก่าไปด้วย ก็ฟินได้อีก แบบที่มากกว่านี้ไม่มีอีกแล้วนะออเจ้า : )

การเดินทาง : Sala Ayutthaya ตั้งอยู่ที่ถนนอู่ทอง เยี้องกับสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ตัวโรงแรมอยู่ติดริมถนนใหญ่

ราคา : เริ่มต้นประมาณ 6,674 บาท (ราคาห้อง Superior)

แผนที่ :

• Ayodhara Village

ออเจ้าคนไหนอยากฟินตามรอยละครบุพเพสันนิวาส ขอพักค้างคืนที่พักริมน้ำอยุธยาเหมือนในละครเป๊ะๆ ขอเชิญมาหย่อนกาย พักใจที่ Ayodhara Village กันเถิดเจ้าค่ะ เรือนไทยหลังเดิมเรียงรายเด่นเป็นสง่ากว่า 14 หลัง งดงามเหมือนในละครไม่มีผิด

ที่พักริมน้ำอยุธยาแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวชอุ่มทั่วบริเวณ เดินเข้ามา คิดว่าตัวเองเป็นการะเกด ชม้อย ชะม้ายชายตา ขึ้นเรือนแบบสวยๆ ฟินไปอีกเจ้าค่ะ ตัวเรือนไทยใช้ไม้สักทองทั้งหลัง ขลังแต่ไม่ขรึม เพราะแฝงความน่ารักด้วยแต่ละเรือนจะมีชื่อต่างกันไป เดินเข้าตัวห้อง มีมุ้งบางกางอยู่ตรงกลางเรือน คลุมฟูกสีขาวเข้ากันกับหมอนอิงลายไทยไปอีก

ที่ตั้งของ Ayodhara Village เป็นที่พักอยุธยา ริมน้ำลพบุรี บรรยากาศสงบ ร่มรื่น คนไม่พลุกพล่าน ได้นั่งพักรับลมเอื่อย ฟังเสียงคลื่นน้ำคลอเบาๆแบบนี้ บอกได้เลยว่าสุขใจเหลือเกิน รีสอร์ท อยุธยา ริม น้ำ แห่งนี้มีกิจกรรมให้ออเจ้าได้ใส่บาตรตอนเช้ากันด้วย ใส่บาตรยามเช้ากับพระที่พายเรือมาบิณฑบาตถึงบริเวณรีสอร์ทเลยนะเจ้าคะ

นอกจากนี้ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พักยังมี ปางช้างอยุธยา แล เพนียด ซึ่งเป็น 1 ในโลเคชั่นของละครบุพเพสันนิวาสให้ออเจ้าทั้งหลายได้ไปเที่ยวชมอีกด้วย ออเจ้าสามารถไปถ่ายรูปคู่กับช้าง หรือชมโชว์ความสามารถของช้าง ซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของเราได้สบาย แค่คิดก็น่าสนุกแล้วใช่ไหมเจ้าคะ : )

การเดินทาง : ใช้เส้นทางสายเอเชีย ข้ามสะพานแม่น้ำป่าสัก ตัวรีสอร์ทอยู่ไม่ไกลจากวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร

ราคา : เริ่มต้นที่ประมาณ 1,260 บาท (ห้อง Superior Garden)

แผนที่ :

• Athithara Homestay

ยังฟินได้อีกกับที่พักแถวอยุธยา ที่อยากเชิญชวนออเจ้ามาพักคลายร้อนกัน ข้าบอกเลยว่าที่นี่ออเจ้าจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้มากกว่าที่เคย ใช้ชีวิตในพระนครนานไปก็เริ่มเมื่อยล้า ก็เลยขอชวนมาผ่อนคลายและซึมซับกลิ่นอายของบ้านทรงไทยอันวิจิตรงดงามกันสักหน่อย

ตัวเรือนที่พักริมน้ำอยุธยาแห่งนี้สร้างแบบไทยเดิมยกใต้ถุนสูง การตกแต่งเหมือนยกข้าวของในละครมาไว้ที่นี่เลย มีชานเรือนให้นั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งชิวพลางจิบน้ำสมุนไพรเย็นๆให้ชื่นใจ แค่นี้แหละที่ข้าต้องการ

ด้านนอกโบราณ แต่ภายในห้องหับหลับนอนมีอุปกรณ์ครบครัน การตกแต่งด้วยสีของเรือนไม้หลังนี้นั้น ยิ่งทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น เพลาที่ร้อนก็สามารถเปิดหน้าต่างรับลมเย็นๆกันได้ อะไรมันจะฟินขนาดนี้เจ้าคะคุณพี่

จากห้องพักออเจ้ายังสามารถชมวิวแม่น้ำที่ยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิม เช่น ชาวบ้านแจวเรือผ่านไปมา พร้อมชมวิวสวนสีเขียว ที่ร่มรื่นเหลือเกิน ยิ่งตอนกลางคืนเมื่อเปิดไฟสีส้มกระทบกับเรือนไทยแล้ว ถึงกับอุทานออกมาว่า คุณพระ อะไรจะสวยปานนี้! จากที่พักสามารถเดินทางไปเยือนวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งถือเป็นโลเคชั่นหลักที่ปรากฏอยู่ในละครบ่อยครั้ง ที่มีพระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ ตั้งตระหง่านโดดเด่น ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติอีกด้วย คิดจะพักรีสอร์ท อยุธยา ริมน้ำ ก็ลองดู Athithara Homestay ไว้เป็นตัวเลือกกันดูนะเจ้าคะ

การเดินทาง : ใช้เส้นทางถนนอู่ทอง ขับเข้าซอยอู่ทอง 21 เข้ามาจนสุดซอย

ราคา : เริ่มต้นที่ 1,100 บาท (ห้อง Double Room)

แผนที่ :

• The Bank River House

ที่พักริมน้ำอยุธยาอีกแห่งที่ไม่อยากให้ออเจ้าพลาดคือ The Bank River House เดิมที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของธนาคารกรุงไทย สาขาผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีอายุกว่า 50 ปี

ปัจจุบันยังอนุรักษ์ให้คงรูปแบบเดิม ตัวที่พักตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย มีเรือของชาวบ้านแจวผ่านไปมา อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ความเรียบง่ายและไม่ปรุงแต่งจนมากมายของที่นี่ กลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดให้อยากไปสัมผัสความสงบ พักผ่อนให้สบายใจ

ออเจ้าสามารถนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำได้อย่างเพลินตา และแวะสถานที่สำคัญ เช่น วัดตึกคชชหิรัญ ซึ่งครั้งหนึ่งรัชกาลที่ 5 ได้เคยเสด็จประพาสต้นถึง 2 ครั้ง อีกทั้งยังได้เสด็จไปประทับที่บ้านขุนพิทักษ์ ซึ่งปัจจุบันคือบ้านเขียว ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากร เป็นสถานที่ที่เอาไว้ศึกษาทางวัฒนธรรมอีกด้วย

ภายในที่พักยังมีจัดแสดงพิพิธภัณฑ์เรือจำลองขนาดเล็กให้ออเจ้าได้ชมกันด้วย มาพักครั้งนี้ ทั้งเที่ยวสนุก แถมได้ศึกษาประวัติศาสตร์ไปในตัว เป็นการพักผ่อนที่มีคุณค่าเสียจริง ว่าไหมเจ้าคะ

การเดินทาง : ตัวที่พักอยู่ที่อำเภอผักไห่ ไม่ไกลจากวัดโพธิ์ผักไห่ 

ราคา : เริ่มต้นที่ 3,500 บาท (ห้อง Superior Double Bed With River View)