✿ ช่อดอกไม้เจ้าสาว ที่มาและความหมาย ✿
สงสัยกันไหม ? ทำไมเจ้าสาว ต้องโดยนดอกไม้
ในการแต่งงานแต่ละครั้งสิ่งที่เราจะเห็นประจำจนเป็นธรรมเนียมหรือประเพณีสำหรับการแต่งงานไปแล้วก็คือ การให้เจ้าสาวโยนดอกไม้ในวันแต่งงานค่ะ หลาย ๆ คนคงจะสงสัยกันใช่ไหมค่ะว่าทำไมจะต้องโยนทุกงานด้วย ไม่โยนไม่ได้เหรอ แล้วทำไมเวลาจะโยนทีไรสาวโสดทั้งหลายจะต้องแย่งกันรับด้วย? จริง ๆ แล้ว การโยนดอกไม้ในวันแต่งงานคือธรรมเนียมการแต่งงานของชาวตะวันตก ซึ่งมีมาตั้งแต่สสมัยยุโรปยุคกลาง (ค.ศ. 400-476 ถึงค.ศ. 1453-1517 หรือประมาณ 1,600-500 ปีที่แล้ว) นานมาก ซึ่งในตอนแรก เจ้าสาวมักจะคิดว่าคงไม่ได้ใช้ชุดเจ้าสาวนี้อีกต่อไปแล้ว และมีความเชื่อกันว่า ชุดแต่งงานถือเป็นเครื่องรางนำโชคสำหรับผู้หญิงคนอื่น เมื่อพิธีแต่งงานเสร็จสิ้นลงเจ้าสาวมักจะยกชุดแต่งงานให้กับบุคคลอื่น ซึ่งบางทีอาจจะให้ไม่ทั่วถึงเพราะว่ามีชุดเดียว บรรดาสาวโสดทั้งหลายจึงได้พากันมารุมฉีกชุดแต่งงานออกเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ แล้วนำเก็บไว้ เมื่อเวลาผ่านไปชุดแต่งงานได้มีราคาสูงขึ้น และเริ่มมีประเพณีการเก็บชุดแต่งงานเอาไว้เป็นที่ระลึกหรือเพื่อให้ลูกสาวได้ใช้ต่อไปค่ะ และเพื่อป้องกันบรรดาสาวโสดมาฉีกชุดแต่งงาน จึงได้มีการคิดที่จะโยนสิ่งอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือยางรัดถุงน่องค่ะ แต่ว่าไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนักจึงได้มีการเปลี่ยนเป็นการโยนดอกไม้แทนค่ะ เพราะว่าดอกไม้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการเจริญเติมโต และดอกไม้ก็ต้องมีวันเหี่ยวเฉาลง เจ้าสาวจึงไม่นิยมเก็บเอาไว้ค่ะ แต่ก็มีบางคู่ที่ไม่นิยมโยนดอกไม้นะค่ะ แต่จะแจกดอกไม้ให้แก่ผู้หญิงคนละ 1 ดอกแทนค่ะ (วิธีนี้ทั่วถึงมากค่ะ แต่ว่าเปลืองดอกไม้มาก) และบางคู่อาจจะไม่มีการโยนดอกไม้หรือว่าให้ดอกไม้เลยก็ได้ค่ะ สำหรับข้อสงสัยที่ว่า ทำไมเวลาเจ้าสาวจะโยนดอกไม้ ทำไมต้องให้สาวโสดมารอรับด้วย ก็เป็นความเชื่อที่ว่าหากว่าสาวโสดคนไหนได้รับดอกไม้จากเจ้าสาว จะได้แต่งงานเป็นรายต่อไป สำหรับดอกไม้เจ้าสาวในวันแต่งงานจะนิยมเลือกคือดอกกุหลาบ ค่ะ แต่ก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวของเจ้าสาวด้วยค่ะ และนี่คือความหมายของดอกไม้ที่ใช้ในวันแต่งงานค่ะ
ดอกไม้ยอดนิยมสำหรับ “ช่อดอกไม้เจ้าสาว” ในวันแต่งงานนั้นคง อันดับต้นๆ คงไม่มีดอกไหนได้รับความนิยมเท่าดอกกุหลาบ
“ดอกกุหลาบ” ช่อดอกกุหลาบนั้น จะหมายถึง ความรักอันสุดแสนโรแมนติก ความงดงามในรักแท้ของคู่บ่าวสาว เสน่ห์ดึงดูดซึ่งกันและกัน และความรักที่หอมหวานเย้ายวน
“ดอกทิวลิป” ตือ ความรักอันสดใส ความสุข ความสมหวัง ความรักที่เต็มเปี่ยมระหว่างคนสองคน มีความสุขอยู่เสมอและตลอดไป
“ดอกเรนันคูลัส” มีลักษณะคล้ายกับดอกกุหลาบ แต่ดอกจะสั้นและมีกลีบซ้อนเยอะกว่า การตกหลุมรักอย่างลึกซึ้งของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว คือความหมายของดอกไม้ชนิดนี้
“ดอกคาลล่าลิลลี่” เป็นดอกไม้ที่ดูหรูหรามาก แถมยังช่วยเพิ่มความสง่างามให้กับเจ้าสาว ดูโดดเด่น ดุจดวงดาวที่เปล่งแสงประกาย งดงาม สำหรับความหมายของดอกไม้ชนิดนี้คือ ความตรึงตราตรึงใจของเจ้าสาว ที่ประทับใจในตัวเจ้าบ่าว
ช่อบู้เก้ หรือ ช่อดอกไม้ของเจ้าสาวในงานแต่งงาน คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะเพิ่มความสวยงาม อ่อนหวาน และเป็นพร้อบเวลาถ่ายรูปแล้ว ยังสร้างความรื่นเริงในงานแต่งงานได้อีก นั่นก็คือ การโยนช่อดอกไม้ ให้แก่บรรดาสาวโสด เพราะฉะนั้น ช่อดอกไม้ของเจ้าสาวจึงต้องคัดสรรกันซะหน่อย จริงไหมคะ
วันนี้เราก็เลยคัดสรรมาให้ว่าที่เจ้าสาวได้เลือกชม พอเป็นไอเดียกันค่ะ ซึ่ง อันดับแรกก็คือต้องเลือกให้เข้ากับชุดเจ้าสาว และธีมของงานแต่งงานด้วย เราขอแนะนำว่าควรเลือกช่อที่มีสีสันสดใส ไม่สีจัดจ้านเกินไป เอาแบบพอเหมาะพอดีดีกว่าค่ะ และหากชุดเจ้าสาวมีดีเทลมากพอแล้ว ก็ควรเลือกช่อดอกไม้สีเรียบๆ อย่าง ดอกไม้สีขาว หรือชมพู แต่ถ้าเป็นชุดเจ้าสาวเป็นดีไซน์เรียบๆ แล้วหล่ะก็ จัดช่อบูเก้สีแจ่ม ๆ ได้เลยคร่าาาาา….
CR: guru.sanook ,beautyupnews
Fanpage : https://www.facebook.com/JaePaoFlorist01