ไหว้พระ 9 วัดดังอยุธยา ตามรอยละครฮิต ไปเช้าเย็นกลับ จบในวันเดียว

1.วัดใหญ่ชัยมงคล

เที่ยวอยุธยา ทั้งทีต้องไม่พลาดกับ วัดใหญ่ชัยมงคล หนึ่งใน วัดดังอยุธยา ที่เก่าแก่ ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรี พ.ศ. 1900 ยุคสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจ้าอู่ทอง กษัตริย์องค์แรกแห่งกรุงศรีอยุธยา ไฮไลท์ของที่นี่คือมีเจดีย์สูงที่สุดในจังหวัด สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะในครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชชนะศึกยุทธหัตถี ซึ่งวัดใหญ่ชัยมงคลตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะพระนคร ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล ด้านหลังวัดมีตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปัจจุบันวัดแห่งนี้เป็นสถานสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด และยังเป็นฉากละครดังหลายเรื่อง เพื่อแสดงความรุ่งเรืองในสมัยกรุงศรีอยุธยา อย่างเช่น สายโลหิต, บุพเพสันนิวาส และพิษสวาท เป็นต้น

ที่ตั้ง: 40/3 หมู่ที่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 08.00 – 18.00 น. (เปิดไฟที่โบราณสถาน เวลา 19.30-21.00 น.)
ค่าเข้าชม: คนไทยฟรี, ชาวต่างชาติ 20 บาท
เว็บไซต์: watyaichaimongkol.net

2.วัดไชยวัฒนาราม

อีกหนึ่ง วัดดังอยุธยา ที่กลายเป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตของแฟนละคร นั่นก็คือ วัดไชยวัฒนาราม ที่ถูกกล่าวถึงในละครดังแห่งปีอย่าง “บุพเพสันนิวาส” และปรากฎในหลายฉากของเรื่อง ก็ทำให้มีนักท่องเที่ยวและแฟนละครแต่งตัวด้วยชุดไทยไปตามรอยเที่ยววัดไชยอย่างแม่การะเกดกันเพียบ!

วัดไชยวัฒนาราม สันนิษฐานว่าสร้างโดยการจำลองรูปแบบมาจากปราสาทนครวัดในกัมพูชา สร้างขึ้นช่วงอยุธยาตอนปลายในปี พ.ศ.2173 ยุคสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สถาปัตยกรรมภายในมีพระปรางค์ประธาน รายล้อมด้วยพระปรางค์ 8 องค์ และถึงแม้จะผ่านศึกสงครามครั้งกรุงแตก แต่วัดไชยวัฒนารามก็ยังคงงดงามเหนือกาลเวลา ดังเช่นในฉากละครนี่แหละค่ะ และนอกจากเรื่องบุพเพสันนิวาสแล้ว วัดไชยวัฒนารามยังเป็นฉากที่ปรากฎในเรื่องคุณชายพุฒิภัทร ในตอนที่กรองแก้ว รับบทโดยสาวเบลล่า ไปขายพวงมาลัยด้วยนะ

ที่ตั้ง: บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 08.30 – 16.30 น. (เปิดไฟที่โบราณสถาน เวลา 19.30 – 21.00 น.)
ค่าเข้าชม: ชาวไทย 10 บาท, ชาวต่างชาติ 30 บาท

3.วัดพุทไธศวรรย์

อีกหนึ่ง วัดดังอยุธยา ก็คือ วัดพุทไธศวรรย์ พระอารามหลวงสำคัญในยุคต้นกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวัดที่พระเจ้าอู่ทองโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ภายใต้ศิลปะแบบขอม รวมอายุนับตั้งแต่ปีก่อถึงปัจจุบัน 665 ปี (พ.ศ. 2561) เป็นอีกวัดที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายหลังจากกรุงแตก ที่มีโบราณสถานให้เข้าเยี่ยมชม และใช้เป็นฉากถ่ายหนังไทยหลายเรื่องเชียวล่ะ นอกจากฉากฝึกดาบและอาคมในเรื่องบุพเพสันนิวาสแล้ว ก็ยังมีเรื่องข้าบดินทร์ รวมถึงหนึ่งด้าวฟ้าเดียวก็ใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำเช่นกัน

ที่ตั้ง: 16/2 ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 
เวลาทำการ: เปิดทุกวันเวลา 08.30 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
เว็บไซต์: https://www.putthaijatukam.com/

4.วัดธรรมาราม

บรรยากาศสงบร่มเย็น ภายใน วัดธรรมาราม ที่มีพื้นที่ 25 ไร่ แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง แต่พระอารามเล็กริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ อยู่เยื้องกับเจดีย์ศรีสุริโยทัยใกล้กับวัดกษัตราธิราช เดิมใช้เป็นป้อมตั้งค่ายครั้งที่พม่าล้อมกรุง กระทั่ง พ.ศ.2310 เสียกรุงครั้งสุดท้าย ที่แห่งนี้จึงถูกรายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมเจดีย์และโบสถ์สมัยอยุธยาตอนปลาย จนถึงรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงศรัทธา เสด็จมาบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ควรค่าแก่การมาสักการะบูชาอย่างยิ่ง ส่วนแฟนละครที่มา เที่ยวอยุธยา ตามรอย วัดแห่งนี้เคยเป็นฉากรากฎในละครเรื่องแค้นเสน่หาด้วยค่ะ

ที่ตั้ง: หมู่ 6 ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา 13000

5.วัดพระขาว

มาถึงวัดสงบบรรยากาศดี มาเที่ยวกี่ครั้งก็ประทับใจ นั่นก็คือ วัดพระขาว ซึ่งชื่อวัดตั้งตามพระประธานหลวงพ่อขาว พระพุทธรูปปูนปั้นทาสีขาว ปางมารวิชัย  หน้าตักกว้าง ประมาณ 4 ศอก สูงประมาณ 5 ศอก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาปี พ.ศ.2250 พระอุโบสถวัดพระขาวงามวิจิตรด้วยผนังลาดรดน้ำสุดประณีตเลอค่า บอกเล่าความรุ่งเรืองของอยุธยา เป็นอีกหนึ่งวัดที่พลาดไม่ได้ เพราะที่แห่งนี้เป็นโลเคชั่นใช้ถ่ายทำฉากพิพากษาในเรื่องพิษสวาท และศรีอโยธยา ซีรีส์ จากช่องทรู ด้วยค่ะ

ที่ตั้ง: เลขที่ 34 หมู่ที่ 3 ตำบลพระขาว อำเภอบางบาล พระนครศรีอยุธยา

6.วัดราชบูรณะ

อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่สุดที่คุณต้องมาเยือนหากได้มา เที่ยวอยุธยา นั่นก็คือ วัดราชบูรณะ ด้วยไฮไลท์น่าสนใจ คือ พระปรางค์ประธานสวยสง่า และวัดแห่งนี้ยังเป็นฉากหลักที่ใช้ถ่ายทำละครเรื่องพิษสวาท นิยายของทมยันตีอ้างอิงจากเค้าโครงเรื่องจริง หรือที่หลายคนเรียกกันว่า วัดคุณอุบล ตามชื่อตัวละครในเรื่องนั่นเองค่ะ ประวัติของวัดแห่งนี้ หลังจากการค้นพบกรุสมบัติโบราณเมื่อปี พ.ศ.2499 ในปีถัดมาได้ถูกโจรลักลอบขนสมบัติ แต่ต่อมา เจ้าหน้าที่ก็สามารถติดตามกลับมาได้บางส่วน และปัจจุบันทรัพย์สมบัติดังกล่าวถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีไว้ที่ห้องราชบูรณะ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

ที่ตั้ง: ถ.ชีกุน ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น. (เปิดไฟที่โบราณสถาน 19.30- 21.00 น.)
ค่าเข้าชม: ชาวไทย 10 บาท, ชาวต่างชาติ 50 บาท

7.วัดกุฎีดาว

ไปวัดราชบูรณะแล้วจะต้องไม่พลาดกับ วัดกุฏีดาว ที่งดงามด้วยศิลปะอยุธยาแท้ เจดีย์กลางวัดทรงกลมฐานกว้าง 30 เมตร กรุงเก่าตำนานปู่โสมเฝ้าทรัพย์ขุมสมบัติอาถรรพ์ ครั้งที่เริ่มจากพระองค์เจ้าพีระพงษ์ภานุเดชใช้เครื่องมือตรวจสอบว่ามีของมีค่าฝังอยู่ 16 แห่ง แต่ขุดเท่าไหร่ก็หาสมบัติไม่พบ จนต้องล้มเลิกการค้นหาในที่สุด สถานที่แห่งนี้ยังใช้ถ่ายทำละครพิษสวาทในฉากจบ สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก

ที่ตั้ง: ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา 
เวลาทำการ: 08.30 – 16.30 น. ทุกวัน
ค่าเข้าชม: ฟรี

8.วัดเชิงท่า หรือ วัดโกษาวาสน์

วัดเชิงท่า หรือ วัดโกษาวาสน์ วัดโบราณที่มากด้วยประติมากรรม และจิตรกรรมโบราณที่สวยงาม ตำนานเล่าว่าเรือนหอนี้เป็นของเศรษฐีที่สร้างไว้ให้บุตรสาวที่หนีตามคนรักแล้วไม่กลับมา เขาจึงถวายเรือนหอนี้ให้แก่วัด  บริเวณวัดเชิงท่าแห่งนี้ยังมี พระปรางค์ห้ายอด สมัยอยุธยา ที่ไม่เหมือนวัดใด มีเพียงที่นี่ที่เดียวอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำในละครเรื่องบุพเพสันนิวาสอีกด้วย

ที่ตั้ง: ต.ท่าวาสุกรี  อ.พระนครศรีอยุธยา
เวลาทำการ: 08.00 – 17.30 น.

9.วัดพระศรีสรรเพชญ์

อีกหนึ่ง วัดดังอยุธยา ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันมากมายนั่นก็คือ วัดพระศรีสรรเพชญ์ พื้นที่วัดมีพระเจดีย์ใหญ่ 3 องค์สำหรับเก็บอัฐิพระมหากษัตริย์ ที่แห่งนี้เป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา มีเจดีย์ทรงลังกา สันนิฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ.1991 โดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ และในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ทำการบูรณะวัดจนมีสภาพดั่งเช่นปัจจุบัน สำหรับละครดังที่ใช้โลเคชั่นนี้ถ่ายทำ เช่น สายโลหิต

ที่ตั้ง: ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. (เปิดไฟที่โบราณสถาน เวลา 19.30น.-21.00 น.)
ค่าเข้าชม: ชาวไทย 10 บาท, ชาวต่างชาติ 50 บาท